Aa
Aa
Aa

Beaking part


ก๊อกๆๆ

สงสัยจะเป็น...

"สวัสดีครับ"

"น้องเจ้ร้านขายติมใช่มะ"

"ใช่ครับ"

"มึงไม่ต้องสุภาพกับกูหรอก"

"อือ"

"ชื่อดิวใช่ไหม"

พยักหน้า

"เรียนคณะอะไรล่ะ"

"แพทย์"

"อ่อ กูเรียนวิศวะนะ มีไรไปหาได้"

พยักหน้า

"เอาเบอร์มาหน่อย" ยื่นโทรศัพท์ให้เบคิงส์ "รับแอดกูด้วย"

พยักหน้า

"เรียบร้อย แล้วนี่กินข้าวยัง"

ส่ายหน้า

"กินมาม่าได้มั้ยล่ะ พอดีห้องกูมีแต่มาม่าอ่ะ"

พยักหน้า

"มึงพูดบ้างก็ได้นะดิว กูคุยกับมึงรู้สึกคุยกับอากาศ"

ยิ้มมุมปาก

"เอาของเข้าไปเก็บเหอะ เดี๋ยวกูต้มมาม่าให้"

"อือ"

"มึงเอารสอะไร มีต้มยำทะเลหม้อไฟกับต้มยำกุ้ง"

"แล้วแต่"

"งั้นมึงเอาต้มยำกุ้งแล้วกัน"

พยักหน้า

"เฮ้อ~ มึงก็ตอบกูหน่อยเถ๊อออออ กลัวดอกพิกุลร่วงรึไง"

"ปากผมไม่มีดอกพิกุล"

"เออ เงี้ย พูดเยอะๆ "

พยักหน้า

"อีกละๆ"

"หึ"

"อ่ะ กินๆ" ผมยื่นถ้วยมาม่าให้มัน มันก็รับแล้วกินเงียบๆ ผมถอนหายใจ กินมาม่าจนหมดแล้วเก็บใส่ถุงขยะ

"มีเรียนมั้ยวันนี้"

พยักหน้า

"เรียนบ่ายใช่ปะ"

พยักหน้า

"มีรถมั้ย"

ส่ายหน้า

"จะไปตอนไหนบอกกูละกันเดี๋ยวไปส่ง"

พยักหน้า


12:00

"จะไปม."

"ไปเร็วจัง ไหนมึงบอกเรียนบ่าย"

"อืม"

"เรียนบ่ายแต่เสือกไปเที่ยงเนี่ยนะ"

"ไปเตรียมตัว"

"แล้วแต่มึงมึงเลย~ คนอะไรขยันฉิบหาย" บ่น


คณะแพทย์

"เลิกกี่โมง"

"ห้า"

"อือ"


17:00

ผมขับบิ๊กไบค์มารอรับมันหน้าตึกแพทย์ แต่ยังไม่เห็นใครลงมาเลยสักคน หรือกลับหมดแล้ววะ

ไซเรน... มันทำไรอยู่นะ ผมสบัดความคิดเรื่องไอ้ไซเรนออก ฟู่วววววว มันเป็นไปไม่ได้หรอก ลืมซะๆๆ

...ไซเรนคือเพื่อนที่ผมชอบ แต่จะสนิทกันแค่ไหน ยังไงก็เป็นได้แค่เพื่อน มากกว่านี้คงไม่ได้แล้วล่ะ

สักพักผมก็รู้สึกหน่วงๆ ที่หลังรถ ดิวมาแล้ว

"ช้าไป 10 นาที" ผมมองนาฬิกา

"อาจารย์เลท"

"เออ ไม่เป็นไร แล้วหิวไหม"

พยักหน้า


ร้านอาหาร

"รับอะไรดีคะ"

"เอาไร" ผมหันไปถาม

"แกงจืดสาหร่ายกับนมปั่น" ผมพยักหน้าให้ดิวแล้วหันไปบอกพนักงาน

"สเต็กหมูกับชาเขียว"

"รอสักครูนะคะ"

ผมกับดิวพยักหน้า

อ่า... จะคุยกับเด็กเรียนแบบนี้ต้องถามเรื่องเรียนใช่ไหมวะ

"เรียนหนักไหม"

พยักหน้า

"ยากมั้ยอะ"

"พอได้" เริ่มพูดละ แสดงว่ามาถูกทาง

"แล้ว..." คิดคำถามไม่ออกว่ะ ให้ตายเถอะ อ้อ "แล้วได้เกรดเท่าไหร่"

"สี่" ไหนบอกพอได้วะ ผมมุ่ยหน้า เหมือนมันจะอ่านความคิดผมได้เลยพูดต่อว่า "ได้เก้าสิบเจ็ดคะแนนเอง"

"พูดงี้กระทืบกูเลยดีกว่า"

"ได้เหรอ" ทำตาประกายเลยนะมึง

"สัตว์"

"ครับ สัตว์ประเสริฐ"

"พูดมาก"

"นึกว่าอยากให้พูดซะอีก"

"เอาที่มึงสบายใจเลย"

"ครับ"

"บอกแล้วไง ไม่ต้องสุภาพ"

"แน่ใจหรอ"

"แน่ใจอะไร"

"แน่ใจว่าไม่ให้ผมพูดสุภาพ" ดิวว่าแล้วเท้าคางมองผม พลางใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ

"เออดิ แบบสุภาพพูดครับทีไรกูล่ะขนลุก"

"ตามใจ" ดิวเลิกเคาะนิ้วก่อนจะเปลี่ยนมานั่งตัวตรง

"อาหารมาแล้วค่ะ"

ผมพยักหน้าแล้วรับอาหารมา

"มึง"

"หือ"

"ลองสเต็กไหม" มันเลิกคิ้วขึ้นข้างนึง "ลองกินมั้ย"

"ทำไม"

"ให้มึงชิมไง เวลากูกินอะไรกูต้องให้คนรับรองตลอดว่าอร่อยหรือเปล่า มึงอยู่ใกล้กูมึงต้อง.."

"โอเค" ผมยิ้มแล้วหั่นสเต็กจ่อใส่ปาก

"อร่อยไหม"

"พอใช้"

"งั้นมึงกินเลย ไม่ถึงขั้นอร่อยกูไม่กิน" มันมองหน้าผมเหมือนจะบอกว่า 'งี้ก็ได้เหรอ'

"ไม่เสียดายเหรอ"

"ถึงเสียดายก็ไม่เอาอ่ะ กูจะกินแต่ของอร่อยเท่านั้น" ดิวแค่นเสียงหัวเราะก่อนจะกล่าว

"ชิมดูสิ" แล้วมันก็จิ้มเนื้อสเต็กที่จานมาจ่อปากผม ผมมองมันแบบไม่เชื่อใจ ก็มันอาจจะแกล้งให้ผมกินสเต็กแบบไม่อร่อยก็ได้ ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบของอร่อย ถ้าไม่อร่อยผมจะอารมณ์เสียทันที ผมเลยต้องให้ไอ้เรน... ชิมให้ผม

เฮ้อ นึกถึงมันอีกแล้ว ทำไมถึงไม่ออกไปจากหัวสีกทีนะ

"เป็นไร" ผมส่ายหน้า ตอบ

"ไม่มีอะไร"

"อร่อย"

"ห๊ะ"

"มันอร่อย แค่แกล้งเล่นว่าไม่อร่อย"

"อือ" แล้วมันก็ยื่นซ้อมที่จิ้มสเต็กมาจ่อใกล้หน้าผมอีกครั้ง

'งั่ม'

"ก็..พอใช้อ่ะ! ไม่เห็นอร่อยเลย ไม่กินแล้ว" จะจำไว้เลย สเต็กร้านนี้ไม่อร่อย! เค็มก็เค็ม

"^_^"

"ยิ้มอะไร สนุกเหรอ" เห็นคนหน้ามุ่ยแล้วตลกมากหรือไง ผมเบะปาก ก็บอกแล้วไง อาหารไม่อร่อยก็จะหงุดหงิด

"่เปล่า แค่คิดว่าน่ารักดี"

"T^T" เบะปากนี่น่ารัก?

"เอาชาเขียวมาสิ เดี๋ยวชิมให้" ผมหรี่ตามองอย่างจับผิด "คราวนี้ไม่แกล้ง" ผมหยิบชาเขียวให้มัน ดิวหยิบหลอดของตัวเองมาดูด "ชอบหวานมากหรือหวานน้อย"

"หวานน้อย ยิ่งน้อยยิ่งดี"

"อ่ะ" ผมหยิบแก้วชาเขียวคืนมาแล้วใช้หลอดตัวเองดูด อื้ม ชาเขียวอร่อย ค่อยอารมณ์ดีขึ้นหน่อย

"ทีหลังอย่าแกล้งอีกนะ ไม่งั้นเจอตีน"

"โอเค^_^"

"คิดตังค์ครับ"

"ทั้งหมด 280 ค่ะ"

"300 ไม่ต้องทอน"

"ขอบคุณค่ะ"

"เดี๋ยวเลี้ยงคืน"

"ได้ งั้นมึงก็ไปทำความรู้จักกับร้านอาหารอร่อยๆ ล่ะ"

พยักหน้า


หอพัก

"มึงนอนไหน พื้น โซฟา เตียง พอดีกูชอบนอนคนเดียวเลยมีเตียงเดียวแบบไม่เผื่อแผ่" พยักหน้า

"แต่เตียงกว้าง..."

"ก็กูนอนดิ้น" ดิวพยักหน้ารับอีกครั้ง "แล้วมึงจะนอนตรงไหน"

"ตรงไหนก็ได้"

"กวนตีน"

"จริง"

"งั้น คือ... กูไม่รู้หรอกว่าตัวเองนอนดิ้นมากไหม รู้แค่นอนแล้วตื่นมาอยู่คนละที่อะ"

พยักหน้า

"มึงจะนอนกับกูไหมล่ะ"

"นอนได้เหรอ"

"ได้ แต่แค่อธิบาย คือถ้านอนพื้นมันก็จะปวดหลัง นอนไม่บายด้วย โซฟาก็ต้องขดตัวนอนอีกเพราะมึงสูง"

"แล้ว..."

"คือกูบอกเลยว่ากูเป็นคนไม่เกรงใจคนเท่าไร เพราะงั้นกูไม่มีทางนอนพื้นหรือโซฟาเด็ดขาด"

"งั้นถ้านอนด้วย...ไม่เป็นไรใช่มั้ย"

"ไม่เป็นไร แต่มึงจะนอนหลับไหมนั่นแหละประเด็น"

"ผม อ่า..." ผมส่งสายตาบอกว่าอย่าพูดสุภาพ เพราะผมจะไม่เตือนอีก "...กูคงไม่นอนง่ายขนาดนั้นหรอก"

เหยดเข้ มันพูดกูมึงแล้วรู้สึกเหมือนมันเท่ขึ้นมาอัตโนมัติเลย โครตคูล

"ใช่ พูดงั้นแหละ" ผมกล่าวด้วยความภูมิใจ

"อืม"

"งั้นกูนอนเลยแล้วกัน มึงจะทำอะไรก็ทำ" มันพยักหน้าแล้วหยิบโน๊ตบุ๊คมาพิมพ์ สกิลการพิมพ์คือดีมาก แถมยังใช้คล่องอีก สงสัยจะใช้ทำงานบ่อย

ช่างมันเถอะ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ ...นอน ZZzz


Dew part

พอผมทำงานที่อาจารย์สั่งเสร็จก็ปาไปตีหนึ่งกว่าๆ แล้ว ช่วยไม่ได้ ต้องรีบทำจะได้ไม่มีงานค้าง

ส่วนเบคิงส์ก็กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่แบบนั้นสามสี่รอบได้ ผมเลยลุกขึ้นเก็บของจนเสร็จ แล้วเดินขึ้นไปบนเตียงเบาๆ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตื่น

"อึก..ฮึกๆ .." เบคิงส์ร้องไห้ ร้องทำไม... เบคิงส์ร้องไห้สักพักก็เงียบไป

พรึ่บ

อยู่ๆ เบคิงส์ก็กอดผม พอจะขยับตัวเขากลับกอดผมแน่นกว่าเดิม ผมถอนหายใจพลางมองด้วยความเอ็นดู

งั้นเอื้อมไปปิดไฟก่อนก็ยังดี

เอื้อมมือปิดโคมไฟที่อยู่ข้างเบคิงส์แล้วกลับมานอนที่เดิม

แต่เหมือนที่ผมบอกว่ายิ่งผมขยับเขายิ่งกอดแน่น มันเลยทำให้ผมขยับไม่ได้ ท่าที่เรานอนเลยกลายเป็นเบคิงส์ที่กอดผม ส่วนผมก็นอนต่อ ก็ทำอะไรไม่ได้นี่นา กอดตอบละกัน ส่วนเขานอนกอดผมแบบนี้ต่อไป ^_^

Comment

  • ไม่มีคอมเม้น